Hot News
April 2011 จาก Holy Friday สู่ Easter
จาก Holy Friday สู่ Easter
คนส่วนใหญ่รู้จักวันวาเลนไทน์และวันคริสตมาสแต่ไม่ค่อยรู้จักวันศุกร์ประเสริฐและวันอีสเตอร์
ในศาสนาคริสต์นั้นวันศุกร์ประเสริฐและวันอีสเตอร์เป็นวันที่มีความหมายเป็นอย่างมาก
Holy Friday
Holy Friday, Good Friday หรือ Great Friday วันศุกร์ประเสริฐคือวันที่พระเยซูสิ้นพระชนม์บน
ไม้กางเขนถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของศาสนาคริสต์
วันศุกร์ประเสริฐเป็นวันศุกร์ก่อน Easter Sunday หรือวันอาทิตย์อีสเตอร์ วันศุกร์ประเสริฐอยู่ใน
Holy Week หรือ สัปดาห์อันศักดิ์สิทธิ์เป็นส่วนหนึ่งของ Paschal Triduum ซึ่งตรงกับการ
ปฏิบัติของเทศกาลปัสกาชาวยิว
หลังจากที่พระเยซูคริสต์ประสูติ พระองค์ทรงเจริญวัยขึ้นในครอบครัวของโยเซฟซึ่งเป็นช่างไม้ใน
เมืองนาซาเร็ธ จนกระทั่งถึงวัย 30 พระชันษา พระองค์ได้เสด็จออกสั่งสอนตามหมู่บ้านในชนบท
ตามเขตแดนต่างๆ ของ ประเทศอิสราเอล ผู้คนมากมายต่างเลื่อมใสในพระเยซูซึ่งเหตุนี้ทำให้ผู้นำ
ศาสนาอื่นไม่พอใจจึงได้ยุยงให้ประชาชนอีกส่วนหนึ่งต่อต้านพระองค์ และได้ติดสินบนยูดาส
ให้ชี้ตัวพระเยซูช่วงอาทิตย์สุดท้าย พระเยซูได้เสด็จประทับที่กรุงเยรูซาเล็มจนถึงวันพฤหัสบดี
และได้ร่วมโต๊ะเสวยกับเหล่าสาวกเป็นครั้งสุดท้าย ที่เรียกว่า "LAST SUPPER"
พระเยซูถูกนำตัวไปพิพากษา เพราะพวกธรรมาจารย์และมหาปุโรหิตต่างพยายามหาพยานเท็จ
มาปรักปรำพระองค์ แต่ถึงแม้มีพยานเท็จหลายคนให้การก็ไม่สามารถหาหลักฐานได้ ในที่สุด
มหาปุโรหิตจึงถามถึงความเป็นพระคริสต์ของพระองค์ เมื่อพระองค์ยอมรับว่าทรงเป็นพระคริสต์
มหาปุโรหิตจึงยุยงคนทั้งปวงว่า พระเยซูพูดหมิ่นประมาทพระเจ้าเพราะยกตนเองขึ้นเป็นพระคริสต์
สิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ผ่านการสวดมนต์ การอธิษฐานขอบคุณ ซึ่งข้อความหลักจะเอ่ยถึงการ
ที่พระเยซูคริสต์ทุกข์ทรมานเพื่อช่วยมนุษย์ซึ่งเป็นคนบาป แม้บางส่วนอาจไม่ได้ฉลองวันศุกร์ประเสริฐ
ที่คริสตจักรแต่ก็จะรำลึกวันศุกร์ประเสริฐในฐานะเหตุการณ์สำคัญตามความเชื่อของผู้นับถือศาสนา
คริสต์
Easter
อีสเตอร์ (Easter) คือ วันระลึกถึงการฟื้นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์ในวันอาทิตย์หลังจาก
พระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนไปเมื่อวันศุกร์ ความเชื่อเรื่องคำว่า Easter มีที่มาหลายทาง บ้างว่ามา
จากประเพณีเฉลิมฉลองของยุโรปโบราณ ผู้คนออกมาร้องรำทำเพลงต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ สัญลักษณ์ของ
ความมีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากซึมเซาหนาวเหน็บนานเป็นเวลาหลายเดือน พวกเขาเชื่อว่าพระเจ้ามอบ
ความเจริญสดชื่นแก่ต้นไม้ตลอดจนชีวิตพืชพันธุ์ต่างๆในท้องทุ่ง บ้างว่ามาจากคำภาษาอังกฤษโบราณ
ว่า Eastre ซึ่งเป็นชื่อเทพธิดาของฤดูใบไม้ผลิและความอุดมสมบูรณ์ของชาวแองโกลแซกซอน พวกเขา
มีกระต่ายเป็นเครื่องบูชานาง และอาจมาจากคำภาษาเยอรมันโบราณว่า Eostarun ซึ่งแปลว่ารุ่งอรุณ
การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับฤดูใบไม้ผลิอย่างน้อย 2 ประการ
ประการแรก วันอีสเตอร์อยู่ในช่วงเดียวกับฤดูใบไม้ผลิ คือระหว่างเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน
ประการที่สอง ฤดูใบไม้ผลิเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่เพราะระหว่างฤดูหนาวที่หิมะตกหรืออากาศ
หนาวเย็น ต้นไม้ส่วนใหญ่จะไม่มีใบ มีลักษณะเหมือนตายไปแล้ว แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงต้นไม้
ที่ดูเหมือนตายไปแล้วก็ผลิใบจึงอาจเป็นสาเหตุที่ใช้คำว่า Easter สำหรับวันฟื้นคืนพระชนม์
คริสตศักราช 325 จักรพรรดิคอนสแตนตินพยายามสร้างแบบแผนในการฉลองวันสำคัญทางศาสนา
ทั้งสอง (หนึ่งคือคริสต์มาส) โดยจัดประชุมสภาที่เมืองไนเซีย ที่ประชุมได้กำหนดให้ฉลองเทศกาล
อีสเตอร์ในวันอาทิตย์แรกหลังจากพระจันทร์เต็มดวงในวัน Equinox หรือวันวิษุวัต (วันที่มีกลางคืน
และกลางวันเท่ากัน) ของฤดูใบไม้ผลิ เป็นวันอาทิตย์ต่อ จากวันเพ็ญแรกหลังวันที่ 21 มีนาคม
ข้อกำหนดดังกล่าวใช้ปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน
กระต่ายก็เช่นกัน ในฤดูใบไม้ผลิกระต่ายจะออกลูกออกหลานแพร่พันธุ์มากมาย เป็นสัญลักษณ์ของ
ความโชคดีและชีวิตใหม่
ที่มา
ข้อมูล :
http://www.followhissteps.com/web_christianstories/east.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Good_Friday
ภาพ : google